เพราะที่อยู่อาศัยถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำคัญของชีวิต ดังนั้นก่อนที่ควักเงินในกระเป๋าเพื่อใช้ในการจองทำสัญญาขั้นตอนหนึ่งที่ผู้บริโภคสามารถทำได้ด้วยตนเองเพื่อจะได้ที่อยู่อาศัยที่ดี นั่นคือการใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง โดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.ได้ให้คำแนะนำว่าผู้บริโภคควรให้ความสนใจในข้อมูลดังต่อไปนี้คือ
ประการที่ 1 ต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดของโครงการที่สนใจว่า เป็นโครงการของบริษัทใด รวมถึงผลงานในอดีต ตลอดจนภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของโครงการ
ประการที่ 2 ต้องไปดูสถานที่จริงของโครงการว่าเป็นอย่างไร ไม่ใช่พิจารณาเพียงแค่ดูจากใบโบชัวร์หรือหน้าเว็บไซต์เท่านั้นก็ตัดสินใจ
ประการที่ 3 ต้องศึกษาตัวสัญญาจะซื้อจะขายให้ดีก่อนการทำสัญญาและวางเงินจอง กรณีบ้านจัดสรรว่าเป็นแบบสัญญามาตรฐานของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง หรือกรณีเป็นอาคารชุดว่าเป็นไปตามแบบมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือไม่ประกอบข้อมูลอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ โดยต้องเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานด้วย
ประการที่ 4 อย่าเชื่อพนักงานขาย ไม่ควรเร่งรีบที่จะเสียเงินจอง
ประการที่ 5 การทำสัญญาต้องมีใบจอง โดยใส่รายละเอียดของข้อมูลการซื้อขายเป็นหลักฐานต่อกัน โดยสาระสำคัญที่จะต้องมีอยู่ในใบจอง มีดังนี้คือ
-วันที่และสถานที่ทำสัญญาจอง เพื่อเป็นหลักฐานว่ามีการทำการจองกันจริง ซึ่งผู้บริโภคจะต้องไม่ละเลยที่จะสังเกตในเรื่องเหล่านี้เพราะจะมีผลต่อการทำสัญญาต่อไป
– ชื่อผู้จองและผู้รับจอง โดยชื่อ นามสกุล ที่อยู่ต้องถูกต้องทั้งนี้เพื่อไม่ให้มีปัญหาต้องมาแก้กันทีหลัง
– รายการทรัพย์สินที่จะจอง เช่นจองบ้านจัดสรรหรืออาคารชุด ควรดูว่ามีข้อมูลรายละเอียดของทรัพย์สิน เช่นขนาดของพื้นที่ ราคาซื้อขาย ที่ตั้งของโครงการ เป็นต้น
– ราคาทรัพย์สินที่ซื้อขาย จะต้องตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฎในสัญญาหรือใบจองตรงตามที่ได้มีการประกาศขายหรือต่อรองกันไว้หรือไม่
ประการที่ 6 ต้องพิจารณารายละเอียดในเรื่องของสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกที่ผู้ประกอบการโฆษณาว่าจะดำเนินการก่อสร้าง
ประการที่ 7 สอบถามราคาบ้านให้ชัดเจน เงื่อนไขในการขอสินเชื่อตลอดจนภาระภาษีค่าธรรมเนียมว่าฝ่ายใดเป็นผู้รับผิดชอบ
ประการที่ 8 มีใบอนุญาตจัดสรรที่ดินหรือไม่ แผนผังของโครงการที่ขออนุญาต
และสุดท้ายประการที่ 9 ถือเป็นข้อที่สำคัญที่สุดนั่นคืออย่าลืมประมาณกำลังซื้อและความพร้อมของตนเองว่ามีเพียงพอหรือไม่
หวังว่าทั้ง 9 ประการดังที่ได้กล่าวมาคงทำให้หลาย ๆ คนได้ตระหนักและฉุกคิดกันมากขึ้น ก่อนที่จะควักเงินในกระเป๋าของตนจองทำสัญญาเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้ไม่มากก็น้อย คราวหน้าเราจะมาคุยกันต่อในกรณีก่อนทำสัญญาและหลังจากทำสัญญาจองกันเป็นที่เรียบร้อย และปรากฎว่าคุณต้องประสบปัญหาในเรื่องการกู้เงินจากสถาบันการเงินไม่ผ่าน แล้วจะต้องทำอย่างไร อดใจไว้ติดตามในตอนหน้า