1.สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ 2.สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ
3.สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ 4.สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อสัญญาโดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ และ 5.สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหายเมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคตามข้อ 1-4
ดังนั้นเพื่อให้การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคได้ลงสู่ระดับหมู่บ้านและชุมชน จึงได้เกิดโครงการดี ๆ เกิดขึ้น โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ (10 ส.ค.) ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ แกรนด์บอลรูม ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวชั่นเซ็นเตอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กับ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พร้อมจัดอบรมสัมมนาเรื่อง “สิทธิผู้บริโภค สิทธิเพื่อความเป็นธรรมในสังคมการบริโภค”
โดยมี นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ(สทบ.) และ พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้ บริโภค(สคบ.) ได้ให้การต้อนรับ ทั้งนี้มีผู้ร่วมงานประกอบด้วยสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจากทั่วประเทศ จำนวนกว่า 1,000 คน เข้าร่วมงาน โดยนายนทีได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการลงนามบันทึกข้อตกลงฯว่า เพื่อให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้รับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค และสามารถนำไปปฏิบัติพร้อมต่อยอดในการประกอบธุรกิจให้เกิดศักยภาพและประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการรับรู้สิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สามารถปกป้องและรักษาสิทธิของตนเองได้ดียิ่งขึ้น
ขณะที่นายสุวพันธุ์ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า “ความร่วมมือในพิธีลงนาม MOU ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติในครั้งนี้นับเป็นนิมิตหมายที่ดีในการจุดประกายสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิผู้บริโภค ให้แก่สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ส่งผลดีต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถนำความรู้ดังกล่าวไปต่อยอดเพื่อถ่ายทอดให้แก่สมาชิกในกลุ่มของตนเอง พร้อมทั้งขยายความร่วมมือไปสู่การสนับสนุนให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ให้ผลิตสินค้าบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมมีความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้บริโภคอย่างเป็นระบบและครบถ้วนมากยิ่งขึ้น”