นอกจากนี้การซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ยังมีสินค้าในบางประเภท เช่นกระเป๋า นาฬิกา เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ หรือของที่ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย โดยปัจจัยที่เข้าถึงง่าย ๆ ตามที่ได้กล่าวมานั้นส่งผลทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์เป็นที่นิยมอย่างมากและมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้น แต่ทว่าในการเติมโตที่มากขึ้นก็ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา ไม่ว่าจะเป็นการได้รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ คุณภาพต่ำกว่าโฆษณาขายไว้ทางออนไลน์ ได้สินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อหรือไม่ตรงกับความต้องการรวมไปถึงเรื่องการโฆษณาที่เกินจริง หลอกลวงผู้บริโภคจนกลายเป็นปัญหา ที่มีการร้องเรียนเข้ามายัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)
ปัจจุบันการซื้อสินค้าและบริการแบบออนไลน์ผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต มีปัญหาในหลายประเด็น เช่นผู้บริโภคชำระเงินแล้วแต่ไม่ได้รับสินค้าตามที่สั่งหรือถูกยกเลิกบริการและไม่สามารถติดตามขอเงินคืนได้ อันเนื่องมาจากไม่ทราบชื่อที่แท้จริงและที่อยู่ของผู้ประกอบธุรกิจ นอกจากยังมีปัญหาในเรื่องของการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง มีการใช้รูปภาพประกอบที่ไม่เหมาะสม
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อจากกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงจากการซื้อขายสินค้าออนไลน์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงมีวิธีง่าย ๆ ในการตรวจสอบก่อนซื้อขายสินค้าฝากถึงผู้บริโภคได้พินิจพิจารณา ดังนี้คือ
ประการแรก ตรวจสอบเว็บไซต์ของร้านค้าว่า มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกระทรวงพาณิชย์หรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าวนี้จะทำให้ผู้บริโภคสบายใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ผู้จดต้องเป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์ ต้องมีการระบุข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เพื่อขอขึ้นทะเบียน
ประการต่อมา เลือกร้านค้าที่มีเสียงตอบรับในทางที่ดี สำหรับวิธีการสังเกตคือร้านค้าที่มีเสียงตอบรับที่ดีที่ได้การรีวิวจากลูกค้าที่สั่งสินค้าจากทางร้าน
ประการที่สาม ตรวจสอบการตอบคำถามของผู้ขายซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากการตอบคำถามในกระทู้ (Webboard) ว่าผู้ขายหมั่นตอบคำถามของลูกค้าหรือไม่ มีการตอบคำถามอย่างไรและเอาใจใส่กับลูกค้าหรือไม่ หากในกระทู้มีลูกค้าเข้ามาเป็นจำนวนมากแล้วผู้ขายมีการให้ความสนใจการตอบคำถามของลูกค้าที่ดีจะทำให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าปลอดภัย
ประการสุดท้าย ดูเงื่อนไขการรับประกันสินค้าหรือบริการหลังการขาย โดยผู้บริโภคควรถามให้เข้าใจและชัดเจนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ซึ่งทางที่ดีควรสอบถามผ่านทางเว็บบอร์ดหรืออีเมล์เพื่อจะได้มีหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร
ทั้งนี้ด้วย 4 ข้อง่าย ๆ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ระบุไว้ ผู้บริโภคสามารถนำไปใช้เป็นหลักในการพิจารณาสำหรับการซื้อของผ่านระบบออนไลน์ เชื่อว่าคงทำให้ผู้บริโภคได้คลายความวิตกกังวลลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย และหากพบเห็นเว็บไซต์ที่มีการโฆษณาเกินจริงหรือมีการใช้ข้อความที่ขัดแย้งกับสินค้าหรือบริการ สามารถแจ้งเรื่องได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) หรือโทรสายด่วน 1166