แม้กระทั่งเหยื่อรายล่าสุดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ (28 มิ.ย.) จากกรณีที่พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสุธาเทพ หรือหริธนเดชส์ รักญาติ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลพระนครศรีอยุธยา ที่ 295/2561 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2561 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และหมายจับศาลจังหวัดสุโขทัย ที่ 95/2561 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2561 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กรณีมีผู้เสียหายเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยถูกหลอกลวงจากบริษัท แต้งกิ้วฮอลิเดย์ทัวร์ จำกัด จำนวน 135 คน ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวแจ้งความร้องทุกข์จากกรณีดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวนสภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และสภ.เมืองสุโขทัย จากการตรวจสอบยังพบว่ามีผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.เมืองชัยนาท ,สภ.เมืองราชบุรี ,สภ.บ้านโป่ง สน.คลองตัน และ สน.บางนา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อยได้ขออนุมัติหมายจับ
สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ก็คือ มีการโฆษณานำเที่ยวลงในเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อ “Thank You Holiday Tour ทัวร์ต่างประเทศในราคาถูก พร้อมรับจัดกรุ๊ปทัวร์ราคาพิเศษ” โดยผู้เสียหายได้ติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์พูดคุยและตกลงเที่ยวตามโปรแกรมนำเที่ยวของบริษัทฯที่จะไปท่องเที่ยวยังประเทศจีนเป็นครอบครัว รวมจำนวน 4 คน ๆละ 9,999 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 41,996 บาท เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน กำหนดเดินทางระหว่างวันที่ 17-20 ธันวาคม 2560 โดยผู้เสียหายได้โอนเงินครบตามจำนวนให้ทางบริษัทฯ
กระทั่งวันที่ 17 ธ.ค.60 ผู้เสียหายได้เดินทางไปที่สนามบินสุวรรณภูมิตามนัดหมายแต่ไม่พบ และไม่สามารถติดต่อทางบริษัททัวร์ได้ และเมื่อตรวจสอบกับทางสายการบินจึงพบว่าไม่มีการจองตั๋วเครื่องบิน แต่ประการใด ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอกลวงจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียนพบว่าบริษัทแต้งกิ้วฮอลิเดย์ทัวร์ จำกัด มีการหลอกลวงลักษณะนี้และเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับความเสียหายอีกจำนวนมาก ซึ่งในเบื้องต้นสามารถรวบรวมข้อมูลผู้เสียหายจำนวน 23 กรุ๊ป ผู้เสียหาย 130 คน ยอดความเสียหายประมาณ 1,581,950 บาท ภายหลังได้พยายามติดต่อคืนเงินให้บางส่วนและแจ้งว่าส่วนที่เหลือจะทยอยจ่ายคืนในลักษณะที่ยื้อเวลา อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำนายสุธาเทพได้ให้การปฏิเสธว่าบริษัทจดทะเบียนถูกต้อง เหตุที่ไม่สามารถพาลูกทัวร์ไปเที่ยวตามที่ตกลงได้เพราะบริษัทมีปัญหาทางการเงิน ซึ่งได้คืนเงินให้ลูกค้าบางรายไปแล้ว
ถึงตรงนี้ Bee Voice ขอนำเรื่องราวดี ๆ จากคำแนะนำดี ๆ ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่ได้ระบุไว้ถึงหลักการในการพิจารณาซื้อแพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยว ซึ่งมีด้วยกัน 5 ประการสำคัญที่ผู้บริโภคจะต้องพึงระลึกไว้หากคิดจะซื้อแพ็คเกจทัวร์จากบริษัทนำเที่ยว
ประการแรก ควรเลือกซื้อกับบริษัททัวร์ที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจนำเที่ยวอย่างถูกต้อง เช่น มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวถูกต้องตรงประเภทและยังไม่หมดอายุ (ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยทั่วไปจะมีอายุ 2 ปี และต้องทำการต่ออายุทุก ๆ 2 ปี) แต่ต้องระวังบริษัททัวร์ที่ใส่เลขที่ใบอนุญาตปลอมเพื่อให้ดูเหมือนว่าเป็นทัวร์ที่ถูกต้อง แนะนำว่าให้ลองตรวจสอบกับกรมการท่องเที่ยว
ประการที่สอง ควรเลือกซื้อกับบริษัททัวร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมั่นใจได้จริง เช่นบริษัททัวร์ชั้นนำของสายการบิน ,บริษัททัวร์ที่ไม่เปลี่ยนชื่อบริษัทบ่อย รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัทเป็นเว็บที่เปิดเป็นเวลานานพอสมควร ลักษณะการจดทะเบียนธุรกิจ
บริษัทที่ระบุชัดเจนได้ว่าสำนักงานที่ตั้งอยู่ไหน มีตัวตนอยู่จริง มีเบอร์โทรและอีเมล์ที่สามารถติดต่อได้ และติดต่อกับใครได้บ้าง หรืออ้างอิงจากเพื่อนหรือคนรู้จักที่เคยไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ที่เลือกซื้อ เป็นต้น
ประการที่สาม ควรเลือกทัวร์ที่มีโปรแกรมชัดเจน
ประการที่สี่ ไม่เลือกทัวร์ที่ราคาแพงหรือราคาถูกจนเกินไปโดยไม่ทราบถึงมาตรฐานการบริการ
ประการที่ห้า บัญชีธนาคารที่โอนเงินเข้าไปควรตรวจสอบว่าเป็นชื่อของใครในบริษัท เช่น ชื่อกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัททัวร์ที่ซื้อจริง ไม่ควรโอนให้พนักงานหรือผู้ติดต่อ เพราะความไว้วางใจ
หลักการทั้ง 5 ประการนี้ลองหยิบนำไปใช้ในการพิจารณาให้ถ่องแท้ เพื่อคุณจะได้ไม่ต้องถูกโดนเท และคุณจะได้ไม่ต้องเสียความรู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการบริษัททัวร์