20 ผู้บริโภครอดคดีรถตู้จีนฟ้องหมิ่ภาวะ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” ที่ผู้บริโภคยอมกลืนเลือดไม่ฟ้องเอาผิดเจ้าของสินค้าหรือบริการที่ด้อยคุณภาพ ส่วนใหญ่เพราะไม่อยากค้าความให้ชีวิตวุ่นวาย คิดว่ายอม ๆไปซะก็จบเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้นฝั่งผู้ประกอบธุรกิจมักจะตอบโต้ข้อร้องเรียนต่าง ๆด้วยการฟ้องหมิ่นประมาทกลับไปยังผู้บริโภค เป็นการ “ปราม” ที่ได้ผลตลอดมา
สมัยก่อนผู้บริโภคไม่กล้าส่งเสียงเพราะกลัวถูกฟ้องกลับ แต่ตอนนี้อยากให้ผู้บริโภคออกมาใช้สิทธิของตนเอง เพราะเดี๋ยวนี้มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภค มีกระบวนการดูแลไม่ทอดทิ้งให้เราต่อสู้แต่เพียงลำพัง
“นายบังเอิญ เม่นน้อย” หนึ่งใน 20 จำเลยที่ถูกบริษัทเจ้าของรถตู้สัญชาติจีน Foton ฟ้องกลับ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและแจ้งความเท็จ หลังจากที่รวมตัวกันเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พร้อมเปิดเผยถึงปัญหาต่าง ๆ ของตัวรถผ่านรายการทีวี (มีเจ้าหน้าที่ สคบ.ถูกฟ้องด้วย 1 คน) ล่าสุด (15 พ.ย.60) ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ตัดสินยกฟ้องผู้บริโภคทุกรายในคดีนี้ โดยเห็นว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวถือเป็น “การติชมโดยสุจริต” เพื่อป้องกันส่วนได้เสียของตนจึงไม่มีความผิดเห็นสมควรพิพากษายกฟ้อง
ในคำพิพากษาของศาลฯยังได้ระบุว่า การที่กลุ่มจำเลยพูดในรายการโทรทัศน์ทำนองว่าสภาพเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ชำรุด ใช้งานไม่ได้จริงต้องซ่อมบ่อยครั้ง ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ารถยนต์บางคันต้องซ่อมแซมตั้งแต่เป็นป้ายแดงจริง และบางคันมีปัญหาไม่ได้คุณภาพจริง ซึ่งโจทก์ก็ไม่ได้โต้แย้งในประเด็นดังกล่าวเรื่องนี้ นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของผู้บริโภค
ขณะที่ “นางประทิน ซื่อเลื่อม” อีกหนึ่งในจำเลยคดีดังกล่าว อธิบายถึงคุณภาพรถตู้ยี่ห้อ Foton รุ่น VIP 14 ที่นั่งซึ่งซื้อมาในราคาประมาณ 1,365,000 บาท โดยระบุถึงสาเหตุที่ร้องเรียนว่าเพราะต้องการเรียกค่าเสียหายกับทางบริษัทที่เหมือนว่าจงใจนำรถที่ไม่ได้คุณภาพมาหลอกขาย แต่ในท้ายที่สุดก็ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 19
“ป้าซื้อรถตู้คันนี้ด้วยเงินที่เก็บหอมรอมริบมาเกือบทั้งชีวิต แต่รถพังตั้งแต่ยังไม่ได้สามเดือน แถมไม่มีอะไหล่อีก ต้องกัดฟันซ่อมแทบจะวันเว้นวัน สุดท้ายไม่ไหวขายต่อให้คนอื่นได้เงินคืนไม่ถึง10 เปอร์เซ็นต์ ป้าคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด พูดความจริงทุกอย่าง ไม่เคยแจ้งความเท็จกับหน่วยงานไหน ถ้าป้าไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวเอง ใครเขาจะมาช่วยป้าได้” นั่นคือความในใจจากผู้เสียหายต่อกรณีที่เกิดขึ้น จากกรณีรถตู้สัญชาติจีนที่นำไปสู่การฟ้องร้อง กระทั่งศาลอุทรณ์ได้พิพากษายกฟ้องในที่สุดด้วยเหตุผลที่ว่า “ติชมโดยสุจริต”