ส่องคดีตัวอย่างก่อนถึงยุค แชร์แม่มณี กับแชร์ก๋วยเตี๋ยวคุกอ่วม 5,227 ปี ฉ้อโกงนับพันราย แต่ต้องติดคุกจริง 20 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เมื่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสริมศักดิ์ อุ่นน้อย ผู้บริหาร บริษัทสยามฟู้ด แฟรนไชส์ จำกัด ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการ ฉ้อโกงประชาชน ผ่านโฆษณาชักชวนประชาชนในสื่ออินเทอร์เน็ต วิทยุ และออกบูธตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ
โดยออกอุบายให้ประชาชนนำเงินมาลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ หรือ แชร์ก๋วยเตี๋ยวบางกอก คนละ 45,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท
อีกทั้งยังหนีไปเปิดบริษัทไบโอดีเซล เพื่อออกอุบายอ้างว่าจะได้เงินปันผลเดือนละ 37,500 บาท รวม 24 เดือน เมื่อลงทุนซื้อหัวจ่ายน้ำมัน 400,000 บาท กับบริษัทตน
ซึ่งเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4, 5, 12,15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 การกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ลงโทษทุกกระทงความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 91 แต่เนื่องจากความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท จึงให้ลงโทษในความผิดฐานฐานร่วมกันกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา90 รวม 1,245 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ5 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 5,270 ปี
แต่จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2,635 ปี แต่จำเลยกระทำความผิดกระทงที่หนักที่สุด มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี จึงให้ลงโทษจำคุกจำเลย 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 กับให้จำเลย คืนเงินต้นให้แก่ผู้กู้ยืมเงินหรือผู้เสียหายแต่ละรายตามจำนวน ผู้เสียหายแต่ละรายที่ได้นำมาให้จำเลยกับพวกกู้ยืมเงินไปแล้ว แต่ยังไม่ได้คืนพร้อมด้วยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่คืนเงินสดของกลางเฉลี่ยให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมด