เฟซบุ๊กคือช่องทางหลักที่แฮกเกอร์ทั่วโลกนิยมใช้เจาะข้อมูล

ฟีเจอร์และแอปพลิเคชันบนเฟซบุ๊กคือช่องทางหลักของเหล่าแฮกเกอร์ที่ใช้เจาะระบบข้อมูล

เฟซบุ๊กอาจเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด จนทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลก (Users) นั้นไว้ใจมากๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าความปลอดภัยของเว็บไซต์นี้ก็ไม่ได้สูงเท่าไร (หมายถึงในฝั่งผู้ใช้งาน)

ปกติแล้วระบบการรักษาความปลอดภัยของเฟซบุ๊กที่คนจะเข้าไปเจาะผ่านระบบได้นั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย แต่ช่องโหว่ที่เกิดขึ้นกับเฟซบุ๊กในช่วงหลายปีที่ผ่าน โดยเฉพาะปรากฏการณ์การแฮกครั้งใหญ่โตก้องโลกนั้นกลับเกิดขึ้นจากฝั่งทางผู้ใช้งานเอง

ซึ่งช่องโหว่จากทางฝั่งผู้ใช้งาน ส่วนมากจะพบสำหรับการใช้งานบนแอปฯ ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย

1. การที่ผู้ใช้งาน (Users) ใช้อีเมลและพาสเวิร์ดเดียวกับเฟซบุ๊กไปสมัครเว็บไซต์ต่างๆ ไปทั่ว โอกาสโดนแฮกจึงมีสูงมาก

ข้อแนะนำ : ควรใช้ password ให้ต่างกับที่เราใช้ใน facebook และที่ล็อกอินในอีเมลด้วย เพื่อป้องกันการโดนแฮกอีเมล

2. การโดน Key Logger จาก internet cafe หรือเครื่องคอมพ์ที่ติดไวรัส หรือมากับพวกโปรแกรมเถื่อน ซึ่ง Key Logger คืออะไร? เจ้าโปรแกรมนี้เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อันตรายและรุนแรงมาก เพราะเป็นโปรแกรมที่ สามารถจดจำคีย์  (Key) ที่เรากดลงไปบน Keyboard ช่น เวลาที่เราเล่นเฟซบุ๊กหรือเกมส์ต่างๆ เมื่อมีการกดข้อมูลลงลนคีย์บอร์ดหากเครื่องคอมพ์เราติดโดนติดตั้งโปรแกรมนี้มาจากทั้งอินเทอร์เน็ตคาเฟ่หรือจากโปรแกรมเถื่อน หรือลิงก์ที่เราเผลอไปกดโดน Key Logger จะจดจำคีย์พวกนั้นที่เราพิมพ์บนแป้นพิมพ์ไว้ทั้งหมด และโปรแกรมมันก็จะเก็บ Id และ password ทั้งหมดไว้ แล้วจะส่งไปยังผู้ที่ฝังโปรแกรม แม้กระทั้งเราพิมพ์อะไรบนเอกสาร แฮกเกอร์ก็จะรู้หมดว่าเราพิมพ์อะไร

ข้อแนะนำ : ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัส และไม่ดาวน์โหลดอะไรมั่วตามเว็บไซต์ หรือหากจะป้องกันในระดับ Advance ก็สามารถหาซอฟต์แวร์ที่ช่วยตรวจจับ Key Logger มาใช้ อย่างเช่น

KeyScrambler

3. ไม่ใช่การแฮกโดยตรงแต่คือการ Permission หรือการขออนุญาตจากเจ้าของเฟซบุ๊ก เช่น การเล่นQuiz ทายใจต่างๆ หรือจากแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์

ถ้าเผลอโดนแฮกแล้ว จะทำอย่างไรได้บ้าง

Beevoice ขอแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้

1. เปลี่ยนรหัสผ่านเฟสบุ๊ค ทันทีได้ที่ (Setting -> General -> Password)
2. ถอนการติดตั้งแอปพลิเคชั่นต้องสงสัย จากเฟสบุ๊คขงอคุณที่มีความสามารถในการโพสอัตโนมัติ (Setting -> Apps)
3. สแกนคอมพิวเตอร์ของคุณ ด้วยแอนตี้ไวรัสเวอร์ชั่นล่าสุด

โดยสามารถตรวจสอบกิจกรรมย้อนหลังได้ที่ Setting -> Activity Log เพื่อตรวจสอบประวัติกิจกรรมที่อาจจะถูกกระทำโดยมัลแวร์ หรืออาชญากร อย่างเช่น การโพส แชร์รูปภาพ หรือสร้างคำขอที่ไม่พึงประสงค์

ส่วนการยกเลิก Permission หรือการขออนุญาตการเข้าถึงบัญชีจากพวกเว็บไซต์และแอปพลิคชัน สามารถทำได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/settings?tab=applications