เฟซบุ๊กใช้ข้อมูลอะไรของคุณบ้าง เพื่อแสดงโฆษณาให้คุณเห็น

มาดูกันว่าโฆษณาที่ผู้ประกอบการยิง Ads. ใส่กลุ่มเป้าหมายทางการตลาดนั้น เฟซบุ๊กใช้ข้อมูลของลูกค้าอะไรบ้าง เพื่อแสดงโฆษณาบนหน้า Feed ให้พวกเขาเห็น

ปกติแล้วโฆษณาที่กลุ่มเป้าหมายทางการตลาดเห็นจะอิงจากกิจกรรมที่พวกเขาเคยทำกับทุกบริษัทในเครือเฟซบุ๊ก เช่น

กิจกรรมบนเฟซบุ๊กของผู้ใช้งาน

• เพจที่คุณและเพื่อนของคุณถูกใจ
• ข้อมูลจากโปรไฟล์บน Facebook และ Instagram ของคุณ
• สถานที่ที่คุณเช็คอินโดยใช้ Facebook

กิจกรรมของผู้ใช้งานที่เคยทำไว้กับธุรกิจอื่นๆ

โดยธุรกิจดังกล่าวอาจเพิ่มหมายเลขหรืออีเมลนั้นไว้ในบัญชีรายชื่อลูกค้าที่อาจตรงกับโปรไฟล์ Facebook ของผู้ใช้งาน เฟซบุ๊กจึงสามารถยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องที่สุดได้ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการที่เหล่าผู้ใช้งานอาจแชร์ข้อมูลของเขากับธุรกิจเหล่านี้ด้วยวิธีต่อไปนี้ เช่น

• การสมัครรับจดหมายข่าวทางอีเมล
• การซื้อสินค้าที่ร้านค้าปลีก
• การลงทะเบียนเพื่อรับคูปองหรือส่วนลด

กิจกรรมของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์และแอพอื่นๆ

เว็บไซต์ที่เคยคลิกเข้าเยี่ยมชมหรือแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้งานส่งข้อมูลให้เฟซบุ๊ก ได้โดยตรงโดยใช้เครื่องมือธุรกิจของเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า พิกเซล เป็นการช่วยให้โฆษณาแสดงให้เห็นตามสินค้าหรือบริการที่ผู้ใช้งานเคยดู เช่น เสื้อในเว็บไซต์ของร้านเสื้อผ้าขายปลีก ตัวอย่าง เช่น

• การดูเว็บเพจหนึ่งในเว็บไซต์
• การดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนมือถือ
• การเพิ่มสินค้าในรถเข็นหรือดำเนินการซื้อ

ตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้งาน

เฟซบุ๊กสามารถใช้ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งเพื่อแสดงโฆษณาให้ผู้ใช้งานเห็น โดยมาจากผู้ลงโฆษณาที่พยายามเข้าถึงผู้คนในหรือใกล้บริเวณที่ระบุ เรารับข้อมูลนี้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น

• ที่ที่คุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
• โปรดระบุตำแหน่งที่ตั้งที่คุณใช้โทรศัพท์
• ตำแหน่งที่ตั้งของคุณจากโปรไฟล์บน Facebook และ Instagram

อย่างไรก็ตามวิธีที่เฟซบุ๊กใช้ข้อมูลเพื่อแสดงโฆษณานั้น จะไม่ให้ผู้ลงโฆษณาทราบว่าคุณเป็นใคร เพื่อเป็นการรักษาข้อมูลความเป็นส่วนตัว ทำให้คำถามที่ว่าเฟซบุ๊กขายข้อมูลให้บริษัท Agency ผู้ลงโฆษณาหรือไม่นั้น จึงเป็นไปไม่ได้เลย บริษัทลงโฆษณาจะไม่ทราบข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อหรือเนื้อหาโพสต์ Facebook ของผู้ใช้งาน รวมถึงไม่มีสิทธิ์เข้าถึงไมโครโฟนของผู้ใช้งานยกเว้นว่าผู้ใช้งานจะให้สิทธิ์การอนุญาต เช่น เมื่อผู้ใช้งานบันทึกวิดีโอที่ต้องการโพสต์บนฟีดของผู้ใช้งาน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เฟซบุ๊กจะแอบฟังการสนทนาของผู้ใช้งานได้

คำถามก็คือ พวกคุณอาจสงสัยว่าผู้ลงโฆษณาจะรู้ได้อย่างไรหากไม่มีข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน?

ปกติแล้วเวลาลงโฆษณาเหล่า Buyer จะกำหนดวัตถุประสงค์ เช่น การขายสินค้าหรือการเพิ่มการรับรู้ชื่อแบรนด์ จากนั้นก็ระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการผ่านความสนใจ โดยความสนใจจะเป็นข้อมูลที่เฟซบุ๊กได้จากพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ด้านบนนั่นเอง ซื่งข้อมูลเชิงลึกว่าแต่ละกลุ่มเป็นใครนั่นเฟซบุ๊กจะไม่ได้เปิดเผยอยู่แล้ว

ตัวอย่างการเลือกกลุ่มเป้าหมาย

เมื่อผู้ลงโฆษณาต้องการเข้าถึง… ผู้ที่ชื่นชอบวิ่งมาราธอน

• อายุระหว่าง 19 – 45 ปี
• เพศชาย
• ผู้ที่ห่างจากร้านค้าของฉันในระยะ 15 ไมล์
• สนใจเกี่ยวกับ ‘วิ่งมาราธอน’
• การเข้าถึงบนสมาร์ทโฟน

ตัวอย่างการแสดงโฆษณาต่อผู้คนของเฟซบุ๊ก

เฟซบุ๊กจะมีช่วงเวลาที่เรียกว่า การเรียนรู้โฆษณา ซึ่งจะส่งโฆษณาของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายกว้างๆ ที่คุณเลือกไว้ในด้านบน เพื่อหาว่าคนกลุ่มไหน มีได้ผลลัพธ์ต่อโฆษณาดีที่สุด ก่อนจะเน้นการแสดงผลไปที่โฆษณากลุ่มนั้น

• อายุ 25 ปี
• เพศชาย
• กรุงเทพมหานคร
• สนใจเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ฟิตเนส สุขภาพ และการวิ่ง
• ผู้ใช้บนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม

วิธีการดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้งานถูกจับคู่กับโฆษณาที่อาจสนใจ ทำให้ยังแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานบนเฟซบุ๊กได้โดยที่ผู้ลงโฆษณาไม่ทราบว่าผู้ใช้งานเป็นใคร โดยไม่ต้องขายข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจระบุตัวตนของคุณ เช่น ชื่อ เป็นต้น