จากกรณีที่พายุโซนร้อน ‘ปาบึก’ ขึ้นฝั่งถล่ม ‘ชุมพร-สุราษฎร์ฯ’ 4 ม.ค.นี้ นับเป็นพายุลูกแรกของปี 2562 ซึ่งข้อมูลเพิ่มเติมจากกรมอุตุนิยมวิทยาที่เร่งประกาศเตือนให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดภาคใต้เตรียมรับมือ และอพยพเพื่อความปลอดภัยพบว่า เป็นพายุระดับโซนร้อนความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อภาคใต้ของไทยในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 โดยในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ขณะที่ช่วงวันที่ 4-5 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างในภาคใต้ และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ด้านบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีคลื่นลมแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อยู่บริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากลมแรงและคลื่นลมที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งตั้งแต่วันที่ 3-5 มกราคม 2562
แต่สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดคือ หลายพื้นเสี่ยงเกิดปรากฏการณ์ “สตอร์ม เซิร์จ” (Storm surge) ของคลื่นในทะเลที่ยกตัวสูงขึ้นประมาณ 3-4 เมตร จากการพัดของพายุปาบึก ที่พัดขึ้นชายฝั่งตามแนวชายทะเล แต่อย่างไรก็ตามหลายหน่วยงานในพื้นที่ได้อพยพประชาชนออกนอกพื้นที่แล้ว
นอกจากนี้ นายสุขสวัสดิ์ สุขวรรณโณ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้มีการปิดสนามบินนครศรีธรรมราช โดยประกาศให้ทุกสายการบิน งดบินเข้าและออกสนามบินรวมทั้งสิ้น 24 เที่ยวบินเพื่อความปลอดภัย สำหรับสายการบินที่ทำการบินไปและกลับสนามบินนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย สายการบินนกแอร์ แอร์เอเชีย และไทยไลอ้อนแอร์
ซึ่งมีมาตรการดูและคุ้มครองผู้โดยสารสายการบินที่เดินทางไม่ได้ เนื่องจากผลกระทบจาก พายุปาบึก “สามารถขอเปลี่ยนเที่ยวบินได้ กรณียกเลิกเที่ยวบินก็สามารถขอคืนเงินได้” โดยนางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าากาศยาน (ทย.) อธิบายถึงหลักปฏิบัติของสายการบินต่อผู้โดยสาร กรณีที่ไม่สามารถเดินทางเนื่องจากท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ประกาศปิด แบ่งเป็น 3 สายการบินที่ได้รับผลกระทบดังนี้
สายการบินไทยแอร์เอเชีย
ผู้โดยสารไทยแอร์เอเชียที่ได้รับผลกระทบจากจากเหตุการณ์ดังกล่าวจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านทางอีเมล์และ SMS ที่ลงทะเบียนไว้โดยตรง และท่านสามารถรับข้อเสนอทางเลือกช่วยเหลือ ประกอบด้วย
1. เปลี่ยนเที่ยวบินใหม่ 1 ครั้ง ในเส้นทางเดิม ภายใน 30 วันจากกำหนดการเดินทางเดิม ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยขึ้นอยู่กับจำนวนที่นั่งว่างในเเต่ละเที่ยวบิน
2. เก็บยอดวงเงิน ตามมูลค่าตั๋วโดยสารไว้ในบัญชีสมาชิก BIG Loyalty เพื่อใช้แลกสำหรับเดินทางกับแอร์เอเชีย ภายใน 90 วัน (Credit Account) หลังจากได้รับยอดวงเงิน ซึ่งวันเดินทางจริงอาจอยู่หลังวันที่หมดอายุของ Credit Account
3. คืนเงินเต็มจำนวน ตามวิธีการชำระเงินเดิมของคุณ กรณีเที่ยวบินถูกยกเลิก
สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเปลี่ยนเป็นเที่ยวบินใหม่ในเส้นทางเดิม ให้ระบุวันและเวลาใหม่ที่ต้องการเดินทาง รวมถึงชื่อ-นามสกุล ของผู้เดินทาง ส่งไปที่ฝ่ายบริการลูกค้าทางทวิตเตอร์ (@AirAsiaSupport) หรือ Facebook (@AirAsiaSupport) หรือ Live Chat support.airasia.com
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AirAsia
สายการบินไทยไลออนแอร์
ผู้โดยสารของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ที่มีการเดินทางช่วงวันที่ 3-6 ม.ค.62 ในเส้นทางภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกสายการบินมีแนวทางช่วยเหลือผู้โดยสารดังนี้
1. ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทางบินไปจังหวัดอื่นในภาคใต้แทนได้
2. ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ภายใน 30 วัน
3. ผู้โดยสารสามารถติดต่อเพื่อทำการยกเลิกเที่ยวบินและขอคืนเงินได้เต็มจำนวน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
สายการบินนกแอร์
1. สำหรับเส้นทาง Domestic ไป-กลับ เส้นทางในภาคใต้ เท่านั้น
2. การยื่นร้องขอความต้องการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินที่มีการเดินทางผ่านช่องทาง Call Center 1318/ Counter จำหน่ายตั๋วที่สนามบิน/ ติดต่อผ่านทีมขาย (AT) สำหรับเที่ยวบินที่เดินทางวันที่ 4 มกราคม 2562 เท่านั้น
3. การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายทั้ง change/diff สำหรับเที่ยวบินที่เดินทาง 4 มกราคม 2562 เท่านั้น
4. ทั้งนี้ตั๋วที่มีการเปลี่ยนแปลง ต้องเดินทางให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับจากวันเดินทางเดิม
5. Open ไม่เก็บ change/diff ให้เดินทางแล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับจากวันเดินทางเดิม
6. Reroute ไม่เก็บ change/diff และไม่จัดรถรับส่ง
7. Refund
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่